1-2 ธ.ค.64 @ "ผู้พิพากษาพิจารณาคดี อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกา" คดีที่ 5 แพ่ง_หมิ่นประมาท ตอนที่ 4/6 @ เตรียมเอกสารสำหรับการสืบพยานคดีที่ 5 และวันสืบพยาน

สวัสดีครับทุกท่านทั้งที่ติดตามอ่านบทความเบญจภาค และผู้อ่านที่พึ่งมาเห็นบทความชุดนี้ บทความต่างๆ ผมทุ่มเทพิมพ์ด้วยสภาพความพิการรุนแรง หวังเพียงมีสาระให้ผู้อ่านได้มีมุมมองด้านกฎหมายเพิ่มมากขึ้น หากตามอ่านยังได้สาระที่อาจเชื่อมโยงถึงกลุ่มทุจริตคอรัปชั่นและทุจริตประพฤติมิชอบไปด้วย ค่อนข้างแน่นอนเลยว่า คนส่วนใหญ่จะมีคำถามในใจทันทีว่า ผมและทีมงานซึ่งในขณะนี้ได้มีพัฒนาจากการเป็นเครือข่าย ขยับเป็น "มูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ" แล้วนั้น มีวัตถุประสงค์จะให้เกิดผลกระทบอย่างไรในวงกว้าง ขอตอบว่ามีแน่นอนครับ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ

1. ในระดับบน เมื่อรับรู้ถึงความชั่วร้ายที่ระดับล่างถึงกลางโกงสิทธิคนพิการ ส่งส่วยไปให้นั้น มันเป็นเงินจากคราบน้ำตาและความตายของครอบครัวคนพิการ ส่วนตัวคิดว่า บาปคงหนักกว่าปกติหลายเท่า ไม่ว่าคุณะกินจะนอขจะเจ็บป่วยมีความทุกข์ในช่วงชีวิตไม่ว่าผที่เกิดขึ้นนั้นกับตัวจะเล็กน้อยหรือมากมายเพียงใดก็ตาม ก็คงจะอดคิดไม่ได้ว่า ต้องมีส่วนที่เกิดจากการรับส่วยโกงคนพิการมา อย่างแน่นอน ผลกรรมนั้นอาจส่งผลบ้างแล้วหรืออาจจะส่งผลในอนาคต ให้ในระดับบน ห้ามปรามผู้ส่งส่วย ได้บ้างไม่มากก็น้อย
2. ในระดับกลางถึงล่างที่ร่วมทุจริต ทั้งส่วนที่ยักยอกคอรัปชั่นเงินไป และส่วนใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติมิชอบ มาถึงวันนี้ ผมและสมาชิก คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ เราทุกคนร่วมกันต่อสู้กับพวกมีเงิน มีอำนาจทั้งหลาย ได้อย่างสมเกียรติของครอบครัวคนพิการที่ต้องทุกข์ร้อนจากการกระทำของกลุ่มทุจริต เราชนะทุกคดี ขอย้ำอีกครั้งว่า "เราชนะทุกคดี" แม้ว่าความชั่วร้ายและความอยากมีอยากได้ ต้องร่ำรวย มีบ้าน มีทรัพย์สิน จำนวนมาก บางคนอาจอยากมีสัตว์ 2 เท้า ไว้ครอบครองจำนวนมาก ก็ตาม ก็คงจะเริ่มมีความระแวงว่าวันไหน บาปกรรมที่ตนเองได้ทำไว้ จะติดตามมาถึงขั้นถูกยึดทรัพย์จากการทุจริตไปทั้งหมด แม้ว่าจะมีหลายคนอ้างว่าเป็นคนของผู้ใหญ่นายโตในประเทศไทยก็ตาม
3. ในระดับพื้นที่จังหวัด ที่มีทั้งทุจริตโดยสันดาน กับจำยอมต้องทุจริต เราหวังเพียงให้พวกเขาเปลี่ยนใจ และรับรู้ไว้ว่า พวกคุณเป็นผู้นำคนพิการ สำคัญคือพวกคุณก็พิการ อย่าก่อเวรสร้างกรรมต่อไปเลย คุณสามารถช่วยเหลือครอบครัวคนพิการในพื้นที่ของคุณได้ ควบคู่กับตัวคุณที่จะได้รับสิทธิ์ได้เช่นกัน และมุ่งหน้าทำความดี ช่วยเหลือครอบครัวคนพิการในพื้นที่ ภายใต้กฎหมายที่ยอดเยี่ยมของประเทศไทย

บทความชุด "ผู้พิพากษาพิจารณาคดี อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกา" คดีที่ 5 แพ่ง_หมิ่นประมาท ตอนขที่ 4-6 นี้ เป็นบทความแห่งชัยชนะคดีสุดท้าย คือคดีที่ 5 ของผมที่ตกเป็น "จำเลย" และเป็นคดีที่ 8 คดีสุดท้ายของพวกเราทุกคนที่ถือว่าสิ้นสุดการต่อสู้ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ซึ่งนับจากนี้ไปเราจะเป็น "โจทก์" ที่ยอดเยี่ยม อุดมไปด้วยพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะมัดตัวผู้กระทำความผิด ให้ดิ้นไม่หลุด และพยานบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ น่าเชื่อถือ แตกต่างจากฝ่ายตรงข้ามอย่างฟ้ากับเหว 

สำหรับตอนที่ 4/6 นี้ ผมจึงขอเริ่มต้นจากบรรยากาศ มากกว่าสาระทางวิชาการหรือกฎหมาย มาแบ่งปันผู้อ่านทุกท่าน โดยนำบรรยากาศของการเตรียมเอกสารสู้คดี และบรรยากาศครอบครัวของเราที่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน พากันไปศาลทั้งครอบครัว เพื่อช่วยเหลือตัวผมเองที่ถูกฟ้อง และเท่ากับช่วยเหลือครอบครัวคนพิการที่ถูกโกงทั้วประเทศไปด้วยพร้อมๆ กัน และในตอนที่ 5/6 เราจะกลับมามีสาระเช่นเคยครับ

ภาพตัวอย่างการเตรียมเอกสารสำหรับการสืบพยานในวันที่ 2 ธ.ค.64

ผมนั่งเขียนและติดโพสต์อิท เพื่อเตรียมเนื้อหาในวันสืบพยาน ครับ

ที่ผ่านมาตลอด 3 ปี ผมจะให้ความสำคัญกับการเตรียมพยานหลักฐานเอกสารอย่างมาก เพราะหากผมในฐานะ "จำเลย" ทำเอกสารต่อสู้ได้ดีเยี่ยม รวมถึงเชิญพยานบุคคล ที่มีคุณภาพ ทั้งงานเอกสาร และคำให้การในฐานะพยานที่ทางศาลได้มีการบันทึกในสำนวนคดี จะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำให้กับผมในฐานะ "โจทก์" ได้อย่างมีนัยสำคัญ เท่ากับผมเหนื่อยเพียงครั้งเดียว แต่ใช้หลักฐานได้ยาวๆ และยังเป็นการเบาแรงท่านทนายอาสา ของเราอีกด้วยครับ 

ผมมีหลักฐานเอกสารอยู่แล้ว จึงใช้เวลาเพียง 1 วัน เท่านั้นในการรวบรวมเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ 5 ชุด คือ 

• ชุดที่ 1 ชุดศาลชั้นต้น คดีอาญา คดีที่ 2 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
• ชุดที่ 2 ชุดศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีอาญา คดีที่ 2 
• ชุดที่ 3 ชุดศาลฎีกา คดีอาญา คดีที่ 2 
• ชุดที่ 4 เอกสารเพิ่มเติม หลักฐานเก่าและใหม่ที่สนับสนุนคดีอาญา
• ชุดที่ 5 ชุดคดีแพ่ง ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งเอกสารทั้งหมดผมกับลูกช่วยกันทำขึ้นมาตลอดทั้งวันจนถึง 5 ทุ่มครับ เพราะภรรยาผมต้องการให้ผมนอน เพื่อให้มีสภาพร่างกายพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นที่ต้องขึ้นศาลสืบพยาน จึงได้ลูกมาช่วยงานทำให้ เสร็จเร็วขึ้นครับ

เอกสารที่พร้อมขึ้นศาลใช้โพสต์อิท แบ่งเนื้อไว้ 3 ส่วน พร้อมสืบพยานครับ

บรรจุใส่ถุงซิปเรียบร้อย 5 ถุง 5 ชุด เป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการหยิบใช้งาน

ระหว่างเดินทางไปศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภรรยาและลูกสาวก็ช่วยกันสูบลมยาง ผมแอบถ่ายไว้เป็นสิ่งเตือนใจ เพราะการต่อสู้กับทุจริตขนาดมหึมา เราไม่สามารถจะพึ่งพาใครได้มากนัก โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐที่ไม่ีความเป็นคนเหลืออยู่แล้ว ทุกวันนี้ประเทศไทยของเราทุกคน ที่ยังเป็นชาติอยู่ได้ก็เพราะคนตัวเล็กตัวน้อยยังคอยช่วยกันอยู่ ผมมีความทุกข์ปนสุข ทุกข์ที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน สุขที่เห็นน้ำใจของภรรยาและลูก รวมถึงผู้เสียหายที่สู้ไม่ถอย ปลื้มปิติกับทนายอาสาที่มาช่วยเหลือ และนับถือคนที่ยังมีคุณธรรมอยู่แม้เพียงไม่กี่คนก็ตามที่ให้ข้อมูลและสนับสนุนผมอยู่ข้างหลัง

เอการที่ัดเตรียมทั้งวันจนถึง 5 ทุ่ม กับลูกพร้อมสำหรับการสืบพยาน

ภรรยาแสนเก่งคนกล้า ขับรถตู้ด้วยตนเอง หญิงแกร่งของครอบครัว
เธอบอกผมว่า ขับสบาย ฮุนได H1 นั่งสบาย ขับสบาย ไม่ปวดเมื่อยปวดหลังอะไรครับ

สำหรับบทความ "ผู้พิพากษาพิจารณาคดี อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกา" คดีที่ 5 แพ่ง_หมิ่นประมาท ตอนที่ 4/6 ตอนนี้ เรียกว่า ดราม่าล้วนๆ นะครับ แต่ผมมั่นใจว่า จะเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับบทความตอนใหม่ๆ ที่จะทยอยลงเพิ่มเติม เพื่อสื่อสารให้ผู้อ่านมีความเข้าใจมากขึ้น เพราะถ้าวิชาการล้วนๆ สาระเน้นๆ อาจจะมีเบื่อๆ กันครับ

สำหรับตอนที่ 5/6 ผมจะพาทุกท่านไปอ่านคำพิพากษากันนะครับ และผมมีของแถมเป็นบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีในวันที่ 2 ธ.ค.64 ด้วยว่า เกิดอะไรขึ้น วิเคราะห์เหตุการณ์ได้ว่าอย่างไร หรือว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว อย่างที่คาดการณ์ไว้ครับ

ผมคิดว่า หมาขี้เรื้อน มันคงจะคันตัวมันอยู่เนืองๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเอาน้ำร้อนราดใส่เข้าไปอีก มันจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้เป็นคนสาดน้ำร้อนนะครับ แต่กฎหมายต่างหากที่ร้อนพอจะทำให้หมาขี้เรื้อนถูกด้อยค่าลงไปอีกครับ น้ำร้อนราดรดตัวเต็มๆ ครับ เพราะหมาขี้เรื้อนตัวนี้ดันตัวใหญ่ เสียด้วยครับ

ขอบพระคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ

@preedano